SOL camp#3 ประทับใจสุดๆ

H-U-G (Happy-Unity-Grow) รัก SOL - ฮัก SOL  -HUG SOL

SOL camp#3 ประทับใจสุดๆ

 

สุดสัปดาห์ที่ผ่านมา พวกเราชาว SOL ได้ร่วมกิจกรรม SOL camp#3 ครั้งที่ 3 ซึงเป็นกิจกรรมที่พวกเราก็ได้ทำกันมา 2 ครั้งแล้ว ในช่วงปีที่ผ่านมา แต่ในครั้งนี้ผมถือว่ามีความสำคัญ และ อาจจะเป็นจุดเปลี่ยนสำหรับพวกเรากันเลยทีเดียว

.

SOL camp#3 จัดขึ้นในเวลาและโอกาสที่ ดีจริงๆ  เพราะก่อนหน้านี้เพียงไม่กี่วัน กระแสลมแรงก็เพิ่งจะพัดกระหน่ำใส่พวกเรา อีกครั้งหนึ่ง ซึ่งแต่ละครั้งที่ผ่านมา มันก็บั่นทอนจิตใจพวกเรา ให้สั่นไหวกันได้

ในสภาพที่มีภัย.. ไม่มีอะไรดีไปกว่า การได้รู้แจ้งเห็นจริง ในเรื่องราวต่างๆ

ผมขอนำเสนอในมุมมองหนึ่ง และ ขอข้ามรายละเอียด ในกิจกรรมต่างๆ ไปนะครับ

 

ผมถือว่า การจัดงาน SOL camp#3 ครั้งนี้ ตีได้ตรงจุดจริงๆ ขอชื่นชมทุกๆคน ที่มีส่วนในงานนี้

ทีมงานถามผมว่า ทำไมรูปแบบและทีมนำ จึงไม่เหมือน 2 ครั้งที่ผ่านมา ผมก็ตอบไปว่า คงต้องดูวัตถุประสงค์ของผู้จัดงานว่า ต้องการให้ สมาชิก ได้อะไร

ซึ่งชัดเจนแล้วว่า น่าจะตรงกับวัตถุประสงค์ของผู้จัดงาน และ ตรงใจสมาชิก ที่ไปร่วม

1.การได้ไปเยี่ยมชม BANGKOK ASSAY การได้ฟังการบรรยายและวิศัยทัศ ของ คุณพิเชษฐ์ พะลานุกูล แล้ว นั่นทำให้ทุกๆ มั่นใจว่า SOL มีมาตรฐานระดับโลก และ การเลือก SOL นั้น เป็นสิ่งที่ถูกต้องแล้ว

 

2.กิจกรรมต่าง สำหรับทีมที่มานำพวกเรานั้น ได้รับทั้งความสนุก ความสามัคคี มีส่วนร่วม และ ความประทับใจ จนเรียกน้ำตาที่มาจากความตื้นตัน ในกิจกรรมสุดท้าย

 

 

3.การได้ความมั่นใจจากผู้หญิงตัวเล็กๆ แต่จิตใจแข็งแกร่งมากๆ ภาพที่เธอวิ่งเรียกพลังไปรอบวงกลมของพวกเรา เป็นภาพที่ต้องติดตา ติดใจพวกเรามิรู้ลืม

 

และสิ่งที่เป็นการบ้านที่ทุกคนควรไปต่อยอด ก็คือ การกลับไปเล่าประสพการณ์ ครั้งนี้ให้กับเพื่อนๆ และ ทีมงาน ของตัวเองได้รับรู้รับทราบ เพื่อให้เกิดความมั่นใจ เหมือนที่พวกเราได้รับมาแล้ว

สำหรับ สิ่งที่บริษัทและเราต้องการ น่าจะบรรลุวัตถุประสงค์ ทั้ง Happy และ Unity ต้องขอบคุณทีมจัดงานและทีมวิทยากร ที่จัดมาได้ดีจริงๆ

 

นอกจาก Happy และ Unity ที่ได้รับการเต็มๆ แล้ว ยังเหลือสิ่งสุดท้ายที่พวกเราต้องเอาไปเก็บเกี่ยวและต่อยอดก็คือ Grow นั้นคือก้าวย่างและเติบโต ต่อไป

และ ประกาศเป็นพันธสัญญากันด้วยใจแล้วว่า เป้าหมายทางธุรกิจและจิตใจ ที่พวกเราควรจะให้ความสำคัญ ก็คือ เป้าหมาย 1,000 ที่ไม่ใช่ 1,000 ล้านบาท แต่เป็น 1,000 คนที่มีจิตใจ SOL ในการพบกันใน งาน SOL camp#4 ในอีก 3 เดือนข้างหน้า

 

เพียง 2 วัน ที่ได้สนุกร่วมกัน ได้ร่วมกันทำกิจกรรมต่างๆ เราได้เต้นกันอย่างสุดเหวี่ยงจนลืมแก่ การได้แสดงละครภาคพิเศษที่เรียกเสียงหัวเราะออกมาอย่างสุดกลั้น และ การได้กอดเพื่อนๆ ทั้งๆ น้ำตาที่เอ่อล้น ทุกสิ่งที่เกิดขึ้นล้วนเป็นความประทับใจ

นับจากนี้ ... หัวใจพวกเรา ก็จะเป็น เป็นดวงใจดวงเดียวกัน ยึดมั่นในสิ่งเดียวกัน นั้นคือ SOL ได้ตลอดไป

....................................................................................................................................

 

                                                                    คุณออย มุ่งมั่นสูงมาก ฮ่ะฮ่ะฮ่ะ

                                                                            คุณเจี้้ยบ ขาเจ็บแต่มาด้วยใจ

 

เครดิต: ภาพประกอบจากกลุ่มไลน์ SOL HUG59 ครับ

หนักแน่น มั่นคง กับ SOL

หนักแน่น มั่นคง กับ SOL

 

ป้าต๋อง-น้องยุ

 

ผมทำงานโรงพยาบาล เป็นผู้บริหารระดับกลางๆ ผมทำงานกับคน มีเพื่อน มีพี่ มีน้อง และสัจจะธรรม มากๆก็คือ เห็นเพื่อนร่วมงาน ลาออก ย้ายที่ทำงาน กันเป็นเรื่องปกติ ไม่ว่าใครจะมีเหตุผลอะไร สำหรับผมแล้ว ผมมองว่ามันเป็นเรื่องปกติ

บางคนย้ายตามแฟน, บางคนไปเรียน, บางคนไปอยู่ใกล้บ้าน, บางคนได้ที่ค่าตอบแทนสูงกว่า และบางคน..หนีหนี้ ฮ่ะฮ่ะฮ่ะ

ไม่ว่าใครจะไปด้วยเหตุผลอะไร ผมก็อวยพรด้วยความยินดี และ รักษาความสัมพันธ์ ที่ดีเอาไว้อยู่เสมอ

ผมจึงมีเพื่อนที่รู้จักกันยาวนาน อยู่เป็นจำนวนมาก เช่น ป้าต๋องรู้จักกันมาเกือบ 20 ปี, คุณยุ 10 กว่าปี, คุณหนูนา-น้องสาวพี่พรรณี 20 กว่าปี เวลาผมจะทำอะไรผมก็จะไปชวนเพื่อนเก่าๆ บางคนก็สนใจ บางคนก็ไม่สนใจ แต่ก็ไม่เคยไปบังคับขู่เข็นใคร ธุรกิจผม จึงไม่ค่อยมีคนมาทำด้วย ฮ่ะฮ่ะฮ่ะ

หนููนา-น้องสาวพี่พรรณี

 

 

ธุรกิจเครือข่ายก็ทำมาหลายค่าย  มีเพื่อนใหม่ๆ อยู่เสมอๆ ทั้งสายงานตัวเอง และ เพื่อนต่างสายงาน ใครมีอะไรดีๆ ก็จะมีคนมาชวน เราชวนเค้า-เค้าชวนเรา ดีก็ร่วม ไม่สนใจก็ไม่ร่วม ก็เป็นเรื่องปกติธรรมดามากๆ บางคนทำตัวนี้ ย้ายไปทำตัวอื่น คนตามไปก็มี คนไม่ตามไปก็มี แล้วแต่คนชอบ นาๆ จิตตัง

เมื่อผมมาทำ SOL ผมตั้งใจ ทำความเข้าใจ 4 why อย่างถ่องแท้

1.Why I join ก็คือเหตุผลของเรา อยากมีรายได้ อยากรวย อยากสุขภาพดี อยากมีรายได้แบบ-แพสสีพ ฯลฯ

2.Why network ก็คือเหตุผลที่เรามาทำธุรกิจเครือข่าย เราเข้าใจหลักการของที่มาของรายได้และการสร้างองค์กรธุรกิจหรือเปล่า หรือ เราจะมีรายได้มากๆ ได้ยังไง

3.Why system ก็คือการมีระบบ และ การใช้ระบบ กับทีมงาน เพื่อทำงาน สมาร์ท และ มีประสิทธิภาพมากขึ้น ผลลัพท์ดีขึ้น และ สมาชิกก็ทำตามได้ง่ายๆ เหมือนกัน

4.Why SOL อันนี้เราต้องหาคำตอบเสียก่อนว่า บริษัทมีเยอะแยะ แล้วเราทำไมเลือก SOL

 

ผมว่าข้อ 1-2 น่าจะเหมือนกันทุกคน ข้อ 3 ก็แล้วแต่บริษัทหรือทีมงาน จะใช้ระบบอะไร

ที่สำคัญผมคิดว่าต้องเป็น ข้อ 4 นั่นคือ ทำไมเราเลือก SOL ตั้งแต่แรก ????????

ใช่ครับจุดดี-เด่นมากๆ ของ SOL คือคุณภาพสินค้า และ ตัวผู้บริหาร (รายละเอียดว่าดี-เด่นอย่างไรนั้นพวกเราคงจะตอบได้เหมือนกันหมด นะครับ)

คำตอบที่ว่า มีผู้นำออกไปหลายชุด หลายระลอกแล้ว ทำไมผมยังอยู่ ทีมผมยังอยู่ และ หลายๆ คนยังอยู่ ปัจจัยหลักๆ ก็ คือ เรื่องสินค้าและผู้บริหารที่น่ารักนี่แหละครับ

วันนี้มีคนมา SP ผม ถึงที่ทำงาน คุยสารทุกข์-สุกดิบ กันนิดนึง แล้วเขาก็เข้าพิธี SP ผมก็ฟังเขา จนจบ บริษัทเขา มีให้เลือกสมัครหลายแพคเกจ-หลายราคา ซึ่งจะมีโอกาสทางธุรกิจ ที่แตกต่างๆ กัน ราคาถูกสุด เริ้มต้น 3500 บาท แพงสุด แสนนึง  ผมก็เลยแกล้งถามว่า ถ้าผมสมัคร 3500 บาท แล้วผมจะได้สินค้าอะไร เพราะตลอดการสนทนา เขาไม่พูดเรื่องสินค้าเลย  เขาก็จัดการเปิดคอมพิวเตอร์ ให้ดูรูปสินค้า และ รีบออกตัวว่า เรื่องสินค้า นี่ผมยังดูไม่ละเอียดนะพี่ พี่ก็เลือกเอาตามใจชอบครับ ของผมเน้นเรื่องธุรกิจ เรื่องออนไลน์ และ ไปช่วงนี้เป็นต้นสายเลยนะครับ

นี่คือตัวอย่างของธุรกิจ ที่เน้นการหาสมาชิกสมัครและ เอาเงินไปเข้าระบบ การจ่ายคอมมิสชั่น เกิดมาจาก มีคนสมัครเข้ามา สินค้าก็มีพอเป็นพิธี

แต่ขอบอกว่า คนที่มา SP ผมนี่เขาพูดเก่งจริงๆ

สุดท้ายเห็นผมจะไม่เอาด้วย ก็ พยายามปิดการขายโดยขอให้ จองต้นสายไว้ก่อน คือซื้อในชุดที่ถูกสุด ผมก็ปฏิเสธไปด้วยความสุภาพ แล้วใช้เวลาพักใหญ่ พูดเรื่องความประทับใจ SOL ของผมให้เขาฟัง

เอาเถอะครับ ใครทำอะไรรวยก็ทำไป แต่ขอเตือนเพื่อนๆ มือใหม่ ทั้งหลาย ใครมาชักชวน ไปรวยๆๆๆๆๆ

อย่าลืมพิจารณาสินค้าและบริษัท  ให้ดีๆ นะครับ

สำหรับผม ผมศึกษา why SOL จนมั่นใจแล้ว จึงตัดสินใจมาทำ และ ยังอยู่ต่อครับ ไม่ว่อกแว่ก ครับ!!!

ที่เห็นคนเต็มห้องประชุม ก็หากินง่ายๆ โดยใช้วิธีนี้แหละครับ-

สุดประทับใจอีกครั้งกับโซล ที่เจจู

สุดประทับใจอีกครั้งกับโซล ที่เจจู

( 30 มค - 2 กพ 2559 )

 

รางวัลตอบแทนความสำเร็จ ในการทำธุรกิจเครือข่าย นอกจากจะมีรายได้ มีเส้นทางการเจริญเติบโต มีเพื่อนและสังคมใหม่ๆ แล้ว เรายังมีรางวัลการท่องเที่ยว เติมเต็มความสุข เป็นยาบำรุงชั้นดีอีกด้วย

มันก็จริงครับว่า เรามีงานประจำ หรือ มีธุรกิจที่ ทำเงินได้ดี แต่เราก็ไม่อยากจะเอาเงินที่หามาได้นั้นไปเที่ยวเพราะมันก็หมดเปลืองค่อนข้างมาก ถ้าเรารวยมากๆ เราก็ไม่ต้องกังวลเรื่องการใช้จ่าย แต่ถ้าเรามีรายได้ และ รายจ่ายประจำ มากพอๆ กัน เราก็อยากจะสำรองเงินเก็บไว้ดีกว่า ถ้าจะพาครอบครัวไปเที่ยวเราก็เที่ยวกันในประเทศ ก็มีความสุขพอประมาณแล้ว

แต่การทำธุรกิจกับโซลแล้ว นักธุรกิจที่ประสพความสำเร็น ระดับกลางๆ อย่างผม ก็ยังสามารถได้พาคุณแม่ไปเที่ยวที่ โซล-เกาหลีใต้ เมื่อปีที่แล้ว และปีนี้ก็ได้ 2 ที่นั่ง แต่คนที่จะไปด้วยติดธุระ ผมก็เลยไปคนเดียว 555

ทริปนี้เป็นการไปเยือน เกาะ JEJU ประเทศเกาหลีใต้ ถามน้องไกด์แล้วเขาบอกว่า เรียกเจจูก็ได้ เรียกเซจูก็ได้ แต่รอบนี้มีเรื่องที่ต้องกังวลตั้งแต่ก่อนจะไปแล้วว่า อากาศหนาวเย็นถึงขนาดปิดสนามบินและคนติดค้างกลับไม่ได้  นั่นก็ทำให้ผมค่อนข้างกังวลเพราะตามแผนแล้ว หลังจากเที่ยวผมมีงานสำคัญที่พลาดไม่ได้เด็ดขาด จึงค่อนข้างกังวลและติดตดามข่าวอย่างกระชั้นชิด !!!

แต่เมื่อถึงวันเดินทาง สภาพอากาศก็ดูจะเป็นใจ ความกังวลจึงลดลง เราออกเดินทางกันคืนวันเสาร์ที่ 30 มค 2559 ไปถึงเช้าที่เจจู เป็นเช้าวันอาทิตย์พอดี เวลาที่เจจูเร็วกว่าไทย 2 ชั่วโมง เป๊ะๆ

ชาวคณะทั้งหมด รวมทั้งครอบครัว ในทริปนี้  99 คน พอดีๆ

เพียงแค่ออกจากเครื่องบิน ร่างกายก็รับรู้ได้ถึงความแตกต่างของอุณหภูมิ ที่หนาวเย็น แม้ว่าจะยังอยู่ในส่วนของสนามบิน เมื่อผ่านกระบวนการต่างๆ แล้ว ช่วงรอออกจากสนามบิน ผมลองเดินออกไปสัมผัสอากาศข้างนอก – ขอบอกว่า หนาวเย็นยะเยือก และในใจแอบคิดว่า ตรูจะไหวไม๊เนี่ย.. อุณหภูมิ คงจะเป็นเลขตัวเดียว 6-10 *c ในเวลานั้น

 

 

ความประทับใจในการเที่ยวมีอยู่มากมาย ทั้งการไปยืนอยู่ท่ามกลางพื้นน้ำแข็ง และ ต้นไม้ที่มีหิมะเกาะเต็ม สีขาวโพลนไปทั่ว ภาพพ่อ-แม่ ที่เอาลูกใส่กระบะ แล้ว ปล่อยให้สไลด์น้ำแข็งลงมา ทำให้นึกถึงลูกสาวถ้ามาด้วยเขาคงชอบ แน่ๆ แต่ที่ไม่ได้เอามาด้วยเพราะกลัวจะป่วยไข้ ..

อีกภาพนึงที่ประทับใจมากๆ คือ ภาพถ่ายที่อควาเรี่ยม พิพิธภัณฑ์ทางทะเล ที่ใหญ่มากๆ ผมได้ภาพคู่กับ เจ้ากระเบนยักษ์ ที่มันมาอยู่ข้างหลัง และ กำลังยิ้มพอดี 555

 

 

การไปเที่ยวครั้งนี้ ขอบอกตามตรงว่า อากาศมันหนาวเย็นเกินไปสำหรับคนที่เป็นภูมิแพ้อย่างผม ทำให้ต้องคอยหลบอากาศเย็นและกระแสลม ที่พัดหนักอยู่ตลอดเวลา ทำให้ความสนุกลดลงพอสมควร แถม ถ่ายรูปก็ไม่ค่อยหล่ออีกด้วย เพราะต้องใส่เสื้อและหมวก ปกปิดตลอดเวลา 555

 

ส่วนเรื่องที่พักนั้น ก็ ระดับ เกรด A เพราะเรื่องนี้คุณเพ็ญทิพย์ให้ความสำคัญนะครับ เรื่องกิน เรื่องอยู่ นี่ รับประกันได้

 

 

ในคืนที่ 2 มีการสังสรรค์และได้ให้สมาชิกได้พูดความรู้สึกกันคนละเล็กๆ น้อยๆ ผมก็เป็นคนนึงที่มีโอกาสได้พูด นะครับ

สิ่งที่ผมบอกก็คือ เรื่องแรกก็ขอบคุณบริษัทและทีมงาน ที่ช่วยให้เราเที่ยวกันได้อย่างสนุกสนาน ได้ความรู้และปลอดภัย อีกหลายคนพาครอบครัวมาด้วยเรา ทำให้ใครบางคนที่ครอบครัวไม่ค่อยสนับสนุน ได้เห็นว่าครอบครัวโซล มีความสุขด้วยกันอย่างไร 

เรื่องที่สอง คือในวันที่เราไปเที่ยวนั้น เทคโนโลยี ทำให้เราสามารถส่งภาพแห่งความสุขไปแบ่งปัน ทีมงานที่เมืองไทย แม้ว่า ทีมงานยังทำงานกันอยู่ จนถึงนาทีสุดท้าย เที่ยงคืนเมืองไทย ตรงกับ ตี2 ที่เกาหลีใต้ ผมยังคุยกับทีมงานที่แจงคะแนนสุดท้าย ผมคิดว่า พวกเขาควรได้รับรางวันนี้กับเราด้วยในครั้งต่อๆไป

เรื่องที่สามผมพูดถึงการทำงานในปี 59 นี้ เพราะเมื่อต้นปีคุณเพ็ญทิพย์ประกาศวิสัยทัศน์และทิศทางไปแล้ว ผู้นำแจ้งเรื่องการพัฒฯระบบ S3 ให้ง่ายและมีประสิทธิภาพมากขึ้น รวมถึงการเน้นเรื่องการตลาดออนไลน์และ การใช้งาน APPLICATION ที่บริษัททำระบบไว้อย่างสมบูรณ์

เรื่องสุดท้ายที่ผมบอกก็คือ เมื่อตอนแรกที่คนมาชวนทำ SOL ผมคิดแต่เรื่องเงิน และรายได้ แต่เมื่ออยู่นานไป ผมรักบริษัทและสินค้า ผมและทีม จึงเป็น พาร์ทเน้อที่ดีกับบริษัท แต่เมื่อผมเป็นนักธุรกิจที่ประสพความสำเร็จสูงขึ้น ทีมงานทุกคนรักสินค้า รักบริษัท และ พวกเราก็คิดว่า โซล จะเป็นที่อยู่ที่พักระยะยาวได้ ผมจึงคิดว่าตัวเองก็เป็นเจ้าของบริษัทด้วย ใช่ครับ.. ภาระกิจของเราก็ต้องเพิ่มขึ้น ไม่ใช่แค่ทำมาหากิน เราคงต้องช่วยให้บริษัทเติบโต ช่วยแก้ไขปัญหาต่างๆ  เพื่อให้บ้านหลังนี้เป็นบ้านของเราตลอดไป  มีเสียงปรบมือมาจากสมาชิกที่ฟังอยู่ ผมเชื่อว่า หลายๆคนก็คิดแบบนั้น

ตลอดการท่องเที่ยว ท่ามกลางอากาศหนาวเย็น และ ลมพัดแรงตลอดเวลา แต่สิ่งที่ มหัศจรรย์มากๆ ที่เกิดกับตัวผมก็คือ ไม่มีอาการภูมิแพ้เลย ไม่จามแม้แต่สักครั้งเดียว นี่คือผลลัพธ์จากการบริโภคสินค้าโซล อย่างต่อเนื่องนะครับ

การเดินทางกลับถึงบ้านอย่างปลอดภัย ในคืนวันอัวคารที่ 2 กพ 59 ทำให้ การท่องเที่ยวครั้งนี้สมบูรณ์แบบ นะครับ

พบกันอีกที ในทริปถัดไป ครับ