วันจันทร์ที่ 19 ธันวาคม พ.ศ. 2559

benchmarking



ข้อคิดจาก พุทธะ


ในภาษาธุรกิจมีคำหนึ่งคำที่นิยมใช้กันบ่อยบ่อยสำหรับกิจการเล็กๆที่ดูบริษัทใหญ่ใหญ่เป็นตัวอย่างหรือแนวทางนั่นคือคำว่า benchmark เบนช์มาร์ค

แปลเป็นภาษาง่ายง่ายว่าวัดรอยเท้าหรือเอาตามอย่าง  

ภาษาสมัยนี้เค้าเรียกคนที่เราชอบหรืออยากเลียนแบบว่าไอดอล idol  


อาจารย์บู ตัวอย่างที่ดี มีค่ากว่าคำสอน


มีใครหลายหลายคนที่ประสบความสำเร็จหรือเป็นตัวอย่างที่ดีได้คนนั้นอาจจะเป็นคนที่เราชอบหรือเราไม่ชอบก็แล้วแต่แต่เราควรจะมีใครสักคนที่พอจะเลือกเป็นแนวทางได้  โดยเฉพาะคนประสบความสำเร็จที่มีโปรไฟล์ใกล้เคียงกับเรา 

วิธีคิดก็คือเค้าทำอย่างไรถึงประสบความสำเร็จ ความแตกต่างของเค้ากับเราคืออะไร แล้วถ้าเราจะสำเร็จเหมือนเขาเราต้องเพิ่มเติมอะไรหรือตัดตัวไหนออก 

เพราะหลายหลายคนและหลายหลายครั้งเวลาได้พิสูจน์แล้วว่าวิธีคิดหรือวิธีการหรือแนวทางที่เราใช้อยู่นั้นมันไม่ค่อยได้ผลที่ดีนัก 

มีวิธีจัดการกับตัวเองง่ายง่ายสองวิธีคือ
1.ทำตามวิธีของตัวเองที่ผ่านมา
2.ลองหา benchmark เบนช์มาร์คกิ้ง ของตัวเองสักคนนะครับ 


เราอาจจะไม่ต้องเลียนแบบเขาร้อยเปอร์เซ็นต์หรือลอกเขาไปซะหมดทุกอย่าง เราเรียนรู้จากเขาแล้วเอามาปรับเป็นตัวของเราเองในแนวทางที่เราพอจัดการได้ 

เจ้าแม่ แสนพีวี ตอนนี้ออกมานำเรื่องคอนเท้นต์และโพสต์ออนไลน์


ถ้าที่เราอยู่เป็นฝั่งของความลำบากยากจนหรือเป็นฝั่งของความไม่สุขสบาย  เรามาหาวิธีข้ามฝั่งไปสู่ชีวิตที่ดีขึ้นกันเถอะ หา benchmark แล้ว ทำตามแนวทางนั้น


เจ้ ขาลุย ล่าสุดฟาดทั้งพม่าและเนปาล 


ชอบแนวไหนก็เลือกเอาตามอย่าง สักคนนะครับ





วันพฤหัสบดีที่ 8 ธันวาคม พ.ศ. 2559

หนักแน่น

หนักแน่น
2016-12-09
อายุ 32 ปี ผมก็ ขึ้นตำแหน่งสูงสุดของสายงานแล้ว

เมื่อตอนที่ผมผ่านการประเมินการทำงานในตำแหน่งรักษาการผู้จัดการฝ่ายการพยาบาล ที่โรงพยาบาลเดิม สิ่งที่ท่านผู้อำนวยการพูดกับผม ในวันนั้นนอกจากการแสดงความยินดีแล้ว ท่านพูดคำหนึ่ง ที่ผมยังนำมาใช้ในการดำเนินชีวิต จนถึงวันนี้  นั่นคือ คำว่า หนักแน่น 

ในเวลานั้น ผมไม่เข้าใจ ผมนั่งนึกว่า ในช่วงที่ประเมินงานอยู่นั้น ผมได้แสดงอะไร ที่แสดงความไม่หนักแน่น ออกไป จนท่านต้องเตือนหรือไม่ เพราะตลอดเวลาที่ทำงาน มันก็มีปัญหาหลายอย่าง อยู่ตลอดเวลา แก้ได้มั่ง แก้ไม่ได้มั่ง เรื่องเจ้านาย เรื่องลูกน้อง เรื่องลูกค้า ฯลฯ
ภาพนี้ถ่ายน้องๆ ที่เป็นระดับหัวหน้างาน

แต่เมื่อนานเข้าๆ ผมก็ยิ่งเข้าใจ คำว่า หนักแน่นมากขึ้น มากขึ้น และ มากขึ้น และ คำว่า หนักแน่นก็ยังเอามาใช้กับ ครอบครัว เพื่อนๆ และ บนถนนหนทาง ที่ร้านค้า ที่โรงเรียนลูก เพราะทุกๆที่ มีปัญหา ทั้งนั้น

เมื่อเข้าใจคำว่า หนักแน่น จึงทำให้ผม เป็นคนมีความอดทนสูงและไม่อ่อนไหวกับ เรื่องราวต่างๆมากนัก อีกทั้งยังสามารถทำ อุเบกขา ควบคู่ไปได้อีกด้วย


ผมไม่ใช่คนธรรมะ ธรรมโม อะไรมากนัก แต่ผมก็มีหลักหลายๆ อย่าง ที่ผสมผสานระหว่างศาสนา วิทยาศาสตร์ และการบริหาร
ผมจึงคิดว่า การแก้ปัญหาทุกเรื่อง ด้วยหลักที่ว่า การดับทุกข์ต้องดับที่เหตุ การแก้ปัญหาต้องเป็นวิทยาศาสตร์ และ ทุกๆเรื่องจะมั่วไม่ได้ ต้องใช้หลักของการบริหารจัดการเข้ามาช่วย
ภาพถ่ายกับแฟน -ที่อุดร ฮ่ะฮ่ะฮ่ะ

มันก็ไม่ได้แปลว่า ผมจะทำอะไรได้ดี หรือ ประสพสำเร็จทุกอย่าง แต่ที่ยืนยันได้แน่ๆ คือ ผมไม่ค่อยยึดติดกับความทุกข์ใดๆ นานนัก
และ เรื่องจริงๆ ก็คือ มีปัญหาหลายอย่างแก้ไม่ได้ ปัญหาหลายอย่างอยู่นอกเหนือการควบคุม ปัญหาหลายอย่างเกิดจากคนหลายคน เรื่องหลายเรื่องเกิดขึ้นในที่ลึกลับ (ฮา)


สคส ที่ผมทำเมื่อปี 2555


การซุบซิบนินทา ความไม่เข้าใจ ความเข้าใจผิด ต่างๆ เป็นสิ่งที่ทำให้ไม่สบายใจ การตอบโต้ อาจจะไม่เกิดประโยชน์หรือ แย่ยิ่งกว่าคือ ออกผลไปในด้านตรงข้าม

การเก็บเอามาคิดก็ไม่ทำให้อะไรดีขึ้น ผมจึงไม่ค่อยเป็นทุกข์กับเรื่องไม่เป็นเรื่อง



สำหรับผมแล้ว คำว่า หนักแน่น จึงเป็นสิ่งที่ ต้องคอยบอกตัวเอง และ ทำให้ตัวเองยังยืนอยู่ใน ทรงที่ ถึงจะไม่หล่อ แต่ก็ไม่ขี้เหล่มากนัก ฮ่ะฮ่ะฮ่ะ


................................................................................
เจ้าของบล้อค

บุญยิ่ง ฤกษ์อุดม

Tel. : 083-1258400

Line ID : boonying



















วันเสาร์ที่ 3 ธันวาคม พ.ศ. 2559

3 A -ปัจจัยสำคัญของความสำเร็จ

วันนี้ ขอสนับสนุน เรื่องการทำงานด้วยกัน เป็นทีม ทั้งในทีมเรา และ ในทีมร่วม เพราะพวกเราก็เป็นส่วนหนึ่งของธุรกิจ และ จะทำให้ ทุกๆคน สนุกไปด้วยกัน นั่นคือ 3 A ครับ



1.ATMOSPHERE คือ การอยู่ในบรรยากาศ เราจะได้เห็นความก้าวหน้า ของเพื่อนร่วมธุรกิจ และ สนุก-คึกคักไปด้วย การได้เห็นความสำเร็จของ เพื่อน จะทำให้เรามีแรงฮึกเหิม ตามไปด้วย

พี่สร วันนี้ประสพความสำเร็จเป็น AMM 
ดอกไม้เล็กๆ ที่เพื่อนๆมามอบให้ มีคุณค่ามากเหลือเกิน 

หลายๆคน มีปัญหาและไม่มีความพร้อมเรื่ององค์ประกอบ การไม่ชอบอ่านหนังสือ การไม่ชอบภาษาอังกฤษ ไม่มีเน็ตที่จะเปิดยูทูป-การเรียนไม่เก่ง สิ่งเหล่านี้ แก้ไขได้ โดยมานั่งฟังคนอื่นพูดให้ฟัง แล้ว เอากลับไปทำงาน และ ชวนผู้มุ่งหวังมาทำแบบเดียวกันนี้

ถ้าเราอยู่ในบรรยากาศ หรืออยู่ในห้องประชุม เราคงพลอยยินดี ไปกับเธอ และ คงได้กระตุ้นตัวเอง ว่า ขนาดคนที่ไม่พร้อมก็ยังทำได้ เราก็น่าจะทำได้ .. นั่นคือ ทำตามแบบนี้แล้วมีรายได้เดือนละ 40000-50000 ก็น่าทำตามเนาะ

บรรยากาศ คือ สิ่งที่วิเศษที่สุด ที่คุณจะขาดไม่ได้  
ถ่านออกไปนอกกองไฟเมื่อไหร่ มอดเมื่อนั้น

ข้อ2 ACTION -จะแปลว่า การลงมือทำหรือการมีส่วนร่วม และ การลงไปในทีม การเรียนรู้ จะไม่มีประโยชน์เลย ถ้าไม่กลับเอาความรู้ออกไปลงเนื้องาน ความรู้และเทคนิค ต่างๆ สามารถนำไปใช้งานได้จริง เพราะมีคนทำได้แล้ว และเขาเอามาถ่ายทอด 

ผมขอยกตัวอย่าง คนที่เราเห็นๆ กันอยู่ คือ พี่พรรณี ทีมเราเอง -เมื่อก่อนนี้ จะขายสินค้าแต่ละชิ้น ยังลำบาก จะสปอนเซอร์คนใหม่ก็เป็นเรื่องยาก .. แต่ปัจจุบัน พี่พรรณีปิดการขายครั้งละ หมื่นกว่าได้ตลอด และ เป็นคนที่ ทีมงานเรียกหาตลอดเวลา การทำยอดขายวันละ 5000 pv เป็นเรื่องหมูมาก สำหรับ พี่พรรณี ในวันนี้

เจ้เพนนี่ สวยเปรี้ยว ถ้าใครมีภาพเธอสมัยก่อน ลองเปรียบเทียบกันดู



ข้อ3 ATTITUDE  คือ เรื่องของทัศนคติ ที่หมายถึง แง่คิด และ มุมมอง การที่พวกเราเลือก ทำธุรกิจเครือข่ายกับ SOL นั่นแปลว่า เรา ผ่านความคิดและความเข้าใจ 4 why มาแล้ว คือ why i join , why network , why sol , why system 

การทำงานย่อมมีปัญหา และ อุปสรรคไปตลอดทาง ทั้งเรื่องส่วนตัว งาน หรือ เรื่องของความไม่สะดวกต่างๆ การมีทัศนคติ ที่ดี จะช่วยให้เราไปต่อได้  การทำงานอยู่ในบรรยากาศ การมีส่วนร่วมกับทีม และ การมีที่ปรึกษา ทั้งในสายงาน และ ท่านผู้ใหญ่ อย่าง อาจารย์บูหรือ อาญา นั่น ทำให้เรายังอยู่ในเส้นทาง

NEW AQM- เคล็ดลับของเธอนอกจากอยู่ในบรรยากาศตลอด 
และอีกอย่างคือ เธอได้ความรู้จากการอ่านหนังสือ

คุณนางคือตัวอย่าง ของคนมีฐานะดี บ้านรวย แต่มาทำ SOL ใช้เวลา เกือบ 3 ปี วันนี้ได้เป็น AQM รายได้อาจจะไม่มากนักเมื่อ เทียบกับฐานะทางบ้านเธอ 

เธอเล่าว่าถึงเธอ สำเร็จช้าแต่เธอ แต่ก็เป็นอีกตัวอย่างนึง ของคนที่ อยู่ในเซ็นเตอร์ ไม่เคยขาด อยู่ในบรรยากาศทุกงาน จิตเธอไม่เคยตก เคล็ดลับของเธอนอกจากอยู่ในบรรยากาศตลอด และอีกอย่างคือ เธออ่านหนังสือ เยอะมาก เมื่อวานเธอโชว์ภาพหนังสือที่เธอสะสมอยู่ที่บ้านด้วย

วันพฤหัสบดีที่ 24 พฤศจิกายน พ.ศ. 2559

เส้นทางจอมยุทธ...

เส้นทางจอมยุทธ...


ปรมาจารย์ท่านหนึ่ง กล่าวเอาไว้ว่า ... 100 คนคิด 10 คนลงมือทำ 1 คนเท่านั้น ที่จะสำเร็จ

ปรมาจารย์แห่งมณฑล ตะวันออก-กล่าวเอาไว้


มันก็น่าแปลกที่มีคนจำนวนมาก เข้าสู้เส้นทางขอุง ยุทธภพ มีคนจำนวนมากฝึกกำลังภายใน และมีคนจำนวนมาก ชอบดูหนังจีน 555 แต่มีคนที่ประสพความสำเร็จถึงขั้นสูง มีน้อยกว่าคนที่ไม่ประสพความสำเร็จ

คนเข้าสู่ยุทธภพกันเยอะ- ส่วนมากเป็นวิทยายุทธระดับฮาๆๆ


ในชีวิตจริงก็คงคล้ายๆ ใน ยุทธภพ คือ มีคนจำนวนมาก มองหาเส้นทางแห่งความสำเร็จในชีวิต และ เดินเข้าเส้นทางของการต่อสู้ คือ เรียนๆๆๆ ในสิ่งที่ตัวเองมีเป้าหมายที่จะไปทำงานในอนาคต
เรียนจบแล้วก็ไปทำงาน สร้างเนื้อสร้างตัว มีครอบครัว มีภาระ เริ่มมีเรื่องรับผิดชอบมากขึ้น  และ เรื่องราวความยุ่งยากก็ตามมาอีกเป็นขบวน  
บางคนสาระวนต่อสู้ในกรอบของตัวเอง ไม่ออกนอกกรอบเลย ทำงาน เช้า เลิกค่ำ เลี้ยงลูก ดูแลครอบครัว อยู่กันไปตามประสา
บางคนต่อสู้หลากหลาย หาอะไรมาทำ นั่น โน่น นี่ มองความมั่นคงในอนาคต ทั้งของตัวเอง และ ครอบครัว

ผมขอโฟกัส คนที่ขยันๆ มองหาสิ่งดีๆ ในชีวิตก็แล้วกันนะครับ เพราะผมเองก็เป็น 1 ในคนกลุ่มนั้น

ท่านปรมาจารย์ยิปมัน


การที่เราจะเลือกทำอะไร แค่ไหน นั่น ขึ้นอยู่กับ แนวความคิด และความสามารถ ในการจัดการเรื่องราวต่างๆ ให้ลงตัว เช่นเวลาและภาระส่วนตัว เป็นต้น

คนส่วนใหญ่ คิดจะทำอะไร ก็ อาจจะใช้ความรู้หรือความเข้าใจพื้นฐาน เช่น ทุน และ สิ่งที่ถนัด แล้วก็ลงมือทำกันเลย เราจึงอาจจะเห็น คนที่ทำงานประจำ แล้ว เอาขนมมาขายในที่ทำงาน หรือ มีคนเอา แคตตาล้อก ผ้าห่ม ผ้าปู้ที่นอน มาวางขายในที่ทำงาน โดยมีความคิดว่า ได้ค่าตอบแทนเพิ่ม เท่าไหร่ก็เท่านั้น – ซึ่งมันคงจะไม่มากนัก

นั่นไม่ใช่ผมดูถูกหรือผมว่ามันไม่ดี นะครับ –คนทื่คิดหากิน และ ทำอะไรเพิ่ม ย่อมดีกว่าคนที่เอาเวลาไปทำเรื่องไร้สาระเยอะแยะ
แต่ทำอย่างไร คนจึงจะคิดใหม่ว่า ถ้าต้องการเดือนละ 50,000 หรือ 100,000 บาท จะต้องไปทำอะไร ???
นั่นน่ะสิเนาะ .. 555

เอาละ .. คนที่ไม่คิดก็ตัดออกไปก่อน เพราะมีคนจำนวนมากคิดได้ ครับ


คุณพลาด .. ที่ไม่ได้เรียนเรื่องนี้กับปรมาจารย์แห่งมณฑลตะวันออก


การที่เราจะเลือกเดิน เส้นทางใด ก็ต้องคิดให้ถี่ถ้วน ศึกษาเรียนรู้ และ ทำความเข้าใจว่า ทำอย่างไร จึงจะประสพความสำเร็จได้
และอีกประการสำคัญคือการเรียนรู้จากอาจารย์ หรือ แหล่งที่จะให้ความรู้เราได้ ในที่นี้ผมคิดว่า อาจจะมีอาจารย์เก่งๆ เป็นหลักสักคน หรือ หลายคน ในขณะที่การหาความรู้จากหนังสือ ที่มีคนเขียนถ่ายทอดเรื่องราวของความสำเร็จ ก็เป็นสิ่งที่ควรจะไปหาเอามาอ่านอยู่ตลอดเวลา


บางคนยังไม่รู้เลยว่า จะทำมันไปทำไม


และในเส้นทางเดียวกัน .. เราอาจจะมีเพื่อนที่ ร่วมเดินทางอยู่ด้วย .. อย่าลืมแอบมองเขาบ่อยๆ นะครับ ว่า เขาแซงหน้าเราไปหรือยัง ถ้าเขาเก่งกว่าเรา หรือ มีรายได้มากกว่าเราไปแล้ว เราจะเรียนรู้ ว่าทำไมหรือเขาทำอย่างไร จึงได้ผลลัพธ์ เช่นนั้น

แต่สุดท้าย การลงมือทำอย่างจริงจัง และ การทบทวนตัวเองไปตลอดเส้นทาง เพื่อหาวิธี ปรับปรุงและพัฒนา ผลลัพธ์ ให้มันดีขึ้น นั่น ยิ่งจะเพิ่มพูล ความสำเร็จ...


ปัญหามีก็แก้ๆ กันไป ด้วยวิชาที่เรียนมา .. 
แล้วถ้าไม่ได้เรียนมา .. ก็ไปเรียนสิ จ้ะ จะได้รู้ว่าจะแก้ยังไง

และ สำคัญที่สุด หากเรายังไม่สำเร็จ เราก็อย่าเพิ่งถอดใจ เพราะคนที่ชีวิตเขาดีขึ้น หรือคนสำเร็จ มีให้เราเห็นตัวเป็นๆ อยู่แล้ว
เราเพียงใช้เครื่องมือ ที่ผมจะมอบให้ ชิ้นนี้ ในการพิจารณา นะครับ


อย่าไปมัวโทษนั่น โน่น นี่

อุปกรณ์ที่ใช้คุยกับตัวเอง



ขอบคุณภาพเกือบทั้งหมด จาก โค้ช วัฒน์ แห่งพัทยา นะครับ...


.............................................................................
เจ้าของบล้อค

บุญยิ่ง ฤกษ์อุดม

Tel. : 083-1258400

Line ID : boonying


วันจันทร์ที่ 14 พฤศจิกายน พ.ศ. 2559

สนทนากันเรื่อง passive income (แพสสีพ อินคัม)

15-11-2559
Passive income มีจริงหรือ ?

(อัพไลน์-สายฮา)

วันนี้ น้องๆ ในทีมงานมานั่งคุยด้วย เราสนทนากันเรื่อง passive income (แพสสีพ อินคัม) ผมเห็นว่าน่าสนใจ จึงเอาเล่าต่อให้คนอื่นฟังด้วย นะค้าบ

น้องทีมงาน : พี่บุญยิ่งคะ หนูอยากทราบว่า passive income (แพสสีพ อินคัม) นี่มันมีกันจริงๆ หรือคะพี่ ?
พี่บุญยิ่ง : มีสิครับน้อง -  มีคำสำคัญ 1 คำ ที่ นักเครือข่าย ใช้สร้างแรงจูงใจ ในการชวนคนมาประสพความสำเร็จ นั่นก็คือคำว่า  passive income (แพสสีพ อินคัม) ก็คือการที่มีรายรับอยู่ต่อเนื่องตลอดเวลา แม้ว่าเราจะไม่อยู่ เราจะไปเที่ยว เราจะหยุดทำ หรือแม้แต่ .. เราจะย้ายค่ายไปแล้ว (แต่ยังไม่โดนตัดรหัส)  ฮ่ะฮ่ะฮ่ะ
(น้องใหม่ในทีมงาน-คนขี้สงสัย) 


น้องทีมงาน : พี่พอจะยกตัวอย่างคนที่หนูรู้จัก สักคนนึงได้ไม๊คะ หนูจะได้เชื่อว่ามีจริง
พี่บุญยิ่ง :แหม ก็คนที่เขาชวนพี่มาทำ SOL นั่นไงล่ะคะ , passive กันเห็นๆ ฮ่ะฮ่ะฮ่ะ

น้องทีมงาน :  แล้วอะไรคือ passive income (แพสสีพ อินคัม) คะพี่ ?  
– เพื่อให้เข้าใจง่ายๆ นักธุรกิจเครือข่ายก็มีตัวอย่างสิ่งมีชีวิต 2 ชนิด ที่มี ไลฟ์สไตล์ แตกต่างกันในการทำมาหากิน


 (หากินแบบจิ้งจก- เหนื่อยแน่)

ตัวแรกคือ จิ้งจก – เวลามันจะหาอาหาร มันต้องไปตรงที่มีแมลง ต้องไป รอ-จ้อง-แลบลิ้น ถ้าไม่ไป ไม่มีกิน ฮ่ะฮ่ะฮ่ะ แล้วบางทีไป แต่แมลงไม่มาก็อดเช่นกัลลล ฮ่ะฮ่ะฮ่ะ การหากินแบบนี้ เขาเรียกว่าเป็นการหากินแบบ  active income (แอคทีพ- อินคัม)  ซึ่งมันก็คือการหากิน แบบพวกเรานี่แหละครับ ต้องเอาร่างกาย เวลา สุขภาพ และ กำลังใจ เข้าไปแลก เหนื่อยก็ต้องทำ โดนเอาเปรียบก็ต้องทน ป่วยก็ต้องไป จะตายก็ต้องมีใบแพทย์ ฮ่ะฮ่ะฮ่ะ

(แมลงมุม- เจ้าพ่อเครือข่าย) 
(เจ้าของแนวคิด เหนื่อยครั้งเดียว สบายตลอดชาติ)

ตัวที่สอง คือ แมงมุม – เจ้านี้มันหากินเท่มาก เพราะ มันจะใช้เวลาช่วงแรกๆ ในการชักใยๆๆๆๆ และเมื่อชักใยเสร็จ งานมันก็จบแล้ว รอ ยุง หรือ แมลงต่างๆ มาติดใย แล้วจึงค่อยๆ ย่องไปกิน ไม่ไปกิน แมลงก็ยังติดอยู่ ยังไม่หิวก็ยังไม่ต้องกิน แบบนี้ เขาเรียกว่า หากินแบบ passive income(แพสสีพ อินคัม)  การหากินแบบนี้ โรเบิร์ต คิโยซากิ บอกว่า นี่มันหากินแบบ คนรวยชัดๆ เจ้าแมลงมุมนี่อาจจะเป็น เจ้าของห้าง เจ้าของตลาด คนที่มีเงินเยอะๆ ฝากเงินกินดอกเบี้ย อะไรพวกนั้น ที่เก็บกินได้ตลอดยาวๆ เลย

(เจ้เพนนี่-ทั้งเรียนรู้ ทั้งทำงานอย่างหนัก)
(กำลังจะมี SA ที่ 2 ใต้สายงาน) 
(เส้นทางสู่ passive income ชัดขึ้นทุกวัน)


น้องทีมงาน :  (ทำหน้าเศร้าๆ) แล้วถามว่า - แล้วในธุรกิจเครือข่าย มันเป็นยังไงกันแน่ เพราะทุกวันนี้ ข้าพเจ้าเหนื่อย เหลือเกิน เพราะตั้งใจไว้ว่าจะ สุขสบายในภายหลัง แบบ เจ้าแมงมุม แต่ ปัจจุบันดูแล้ว หน้าหนูชักจะคล้ายๆ จิ้งจกเข้าไปทุกที อ่ะค่ะ (ฮ่ะฮ่ะฮ่ะ)

ใช่ครับ, เรื่องจิ้งจก – แมงมุม - นั่นมันคือการเปรียบเทียบให้เห็นภาพ ว่า ถ้าเราทำแบบหนักๆ และถูกวิธี เราจะประสพความสำเร็จได้ระดับหนึ่ง แต่กว่าจะสำเร็จ ก็ ต้องยอมรับครับว่ามันก็ไม่ง่ายนัก โดยเฉพาะงานที่ต้องทำกับคน มันเรื่องมาก มันปัญหาเยอะ ขี้บ่น ขี้จู้จี้ ขี้หลี ขี้นินทา (ฮาฮาฮา) – เราต้องอดทน จ้ะ

ทีมงานพี่มุก (เครดิต:มุกมังกร)


(ครูหนึ่ง ครูเจี้ยบและเทพทอย) 
(จัดคอร์สที่ W-D  คนมาเรียนเต็ม)

-การมีความรู้ความเข้าใจ อย่าง ถ่องแท้ ในเรื่องของ why network (วาย-เน็ตเวอร์ค)  จะทำให้เราเชื่อเรื่อง passive income (แพสสีพ อินคัม) อย่างมีหลักการและเหตุผล

-การมีความรู้เรื่องสินค้า why sol + products (วาย-โซล+โปรดักส์)จะทำให้เราแนะนำสินค้าได้ดี การเอาใจใส่ลูกค้า จะทำให้ user(ผู้บริโภค)  ไม่ลดลง  และ แนะนำสินค้าตัวอื่นให้ลูกค้าคนเดิม ได้เพิ่มขึ้น

-การมีความรู้เรื่องแผนธุรกิจและ ระบบ S3 ( why system วาย-ซิสเต็ม) จะทำให้ชวนคนทำธุรกิจได้ และ ช่วยให้เขาประสพความ สำเร็จได้จริง และธุรกิจ ก็จะเติบโตได้จริง เราก็จะประสพความสำเร็จได้จริง เช่นกัน

-และที่สำคัญ ถ้ารู้ทุกอย่างแค่ทฤษฎี แต่ขาดการลงมือทำ ขาดการฝึกฝนให้เชี่ยวชาญ ทักษะไม่ดีพอ เซ็นเตอร- ฟังก์ชั่น อะไร ก็ไม่เข้า ความรู้ก็ไม่หาเพิ่ม เอ่อ หนู - ความสำเร็จ ย่อมจะอยู่ห่างไกล น่ะจ้ะ

ความคิดที่จะเป็นแมงมุม จะกลายเป็นเรื่องยากเย็น – หนูจึงสมควร ต้องเป็น ... จิ้งจก ไปเรื่อยๆก่อน ฮ่ะฮ่ะฮ่ะ

(พี่เหมียวทั้งสวยขึ้น รวยขึ้น แถมผ่านทริปญี่ปุ่นแล้วด้วย)
(ก็ยังมาเรียนรู้)


น้องทีมงาน : ถามต่อไปว่า - แล้วนานไม๊ คะ กว่าใครคนนึง จะกลายเป็นแมงมุม ?
พี่ : ก็ขอตอบว่า นานหรือไม่นาน มันก็ขึ้นอยู่กับว่า เรากำลังเดินทางในการทำตัวเองให้เป็นอะไร
ถ้าหากินไปวันนึงๆๆๆ ทำตัวแบบจิ้งจก น้องคงจะเป็นแมงมุมลำบาก

น้องทีมงาน : แล้วหนูต้องทำยังไง คะพี่ ?
พี่ : เดี๋ยววันที่ 27 พย 2559 นี้น่ะ เขาจะบอกวิธี ให้เราเป็นแมงมุม อย่างง่ายๆ น้องต้องไปนะครับ ไปเรียนรู้  แล้วเอามาปรับใช้ ให้ถูกวิธี และ ต่อเนื่อง สม่ำเสมอ นะครับ



(พระบิดาของแมงมุม จะมาบอกวิธีเป็นแมงมุม)
(27 พย 2559)



พี่ : เอ่อ... แล้วก็ไอ้เรื่องไร้สาระทั้งหลายน่ะ หนูต้องลดๆ ลงมั่งนะ

ถ้าทำได้ - พี่รับประกันว่า น้องต้องได้เป็น แมงมุม แน่นอน ครับ (ฮา)



 วันลอยกระทง ผ่านไปแล้ว 
ผมขออนุโมทนาบุญ ให้กับทุกท่านด้วยนะครับ


..............................................................................
เจ้าของบล้อค

บุญยิ่ง ฤกษ์อุดม

Tel. : 083-1258400

Line ID : boonying


วันพฤหัสบดีที่ 3 พฤศจิกายน พ.ศ. 2559

หลักการง่ายๆ ในการดูแลลูกค้า และ ขยายธุรกิจนะครับ

วันนี้ผมขอเสนอหลักการง่ายๆ ในการดูแลลูกค้า และ ขยายธุรกิจนะครับ




 พี่พรรณี คือ หลักฐานว่า สูตรนี้ช่วยให้ประสพความสำเร็จ





หลักการง่ายๆในการเติบโต ก็คือ เรามีคนที่ต้อง ไปพบหรือแสวงหา อยู่ตลอดเวลา 2 กลุ่ม


1.กลุ่มแรกคือลูกค้า กิน-ใช้ เราดูแลแบบลูกค้าที่ร้านค้าครับ เราแนะนำให้เขามีสุขภาพดี ผิวพรรดี และ ซื้อสินค้าต่อเนื่อง สม่ำเสมอ

ผมชอบสอนทีมงานให้ดูแบบอย่างจาก ตัวแทนประกันชีวิต พวกเขาจะมีสมุดบันทึก ว่าลูกค้าเกิดวันไหน ครบรอบจ่ายวันไหน หรือแม้แต่ลูกค้ามีไลฟ์สไตล์อย่างไร และ มีการเฝ้าติดตามเป็นหลายปี เพื่อแนะนำประกันฉบับใหม่ เมื่อฉบับเก่าใกล้ครบสัญญา

เราต้องรู้ว่าลูกค้าเรามีใครมั่ง สินค้าเขาควรจะกินใช้ได้ 1 เดือน เราอาจจะรู้ว่าเขาจะต้องซื้อใหม่ วันไหน แล้วเราก็คอยเตือนเขา

แผนการตลาดของ SOL ให้ค่าแนะนำ เท่ากันทุกๆครั้ง กลุ่มนี้ถ้าดูแลดี ยอดขายและรายได้ไม่ควรจะตกครับ

ถ้ายอดขายตกหรือลูกค้าหายไป นั่น อาจจะสะท้อนว่า ท่านอาจจะต้องปรับระบบการดูแล ลูกค้า

ลูกค้าส่วนมากเข้ามาจากความประทับใจเครื่องสำอาง 
เราควรแนะนำ อาหารเสริมสุขภาพให้เขา เพื่อให้เขาสวยจากภายนอกและภายใน 

ที่สำคัญอาหารเสริมมีจำนวน แน่นอน ที่จะครบรอบต้องบริโภคหรือซื้อครั้งใหม่ 


คุณหนึ่งและน้องโฟโต้ ใช้เวลา เพียง 1 เดือน พิชิต ตำแหน่ง Garnet manager


2.อีกกลุ่มหนึ่งคือ คนที่มีศักยภาพ ในการขยายธุรกิจ เราต้องถ่ายทอดวิธีคิดแบบ เฟรนไชน์ให้กับเขา และ บอกเคล็ดลับของความสำเร็จง่ายๆ นี้ ให้กับเขา

พื้นฐานง่ายๆ ที่เราและทีมงาน ต้องเรียนรู้มากๆ ก็คือ
ถ้ารู้สินค้า เราจะพูดสินค้าได้
ถ้ารู้ธุรกิจ เราจะขยายหรือชวนคนมาร่วมธุรกิจได้ – 

แต่ความรู้เท่านั้น ยังไม่พอครับ 
ต้องอาศัย ความจัดเจน การทำบ่อยๆ และ ทักษะ ที่พัฒนาขึ้น
จะทำให้ ทั้งการขาย และ การขยายธุรกิจ มีสถิติในการประสพความสำเร็จ ดีขึ้นๆๆๆๆๆ

เราต้องเรียนรู้สินค้าจากคลิป ของคุณเพ็ญทิพย์ – และจากบริษัท
เราต้องเข้าเซ็นเตอร์/คลัป  เพื่อเพิ่ม ทักษะและแนวคิดทางธุรกิจ


และเราต้องลงมือ ทำๆๆๆๆๆๆๆ เพิ่อให้เรามีความชำนาญ และ การออกหน้างานบ่อยๆ เจอคนหลากหลาย 

จะทำให้เรามีประสบการณ์ในการรับมือกับ ลูกค้า หรือผู้มุ่งหวัง ในรูปแบบที่หลากหลายมากขึ้น นะครับ

 ในวันที่ไฟฟ้าดับ แต่เมื่อนักเรียนไม่ยอมเลิก คุณครูก็ไม่เลิก


ความรู้และเคล็ดลับต่างๆ ถูกถ่ายทอด อยู่เสมอ คนที่ตั้งใจเรียนรู้ก็มีอยู่เสมอ เช่นกัน

มีคำพูดที่ว่า อยู่ผิดที่สิบปีก็ไม่รวย นั้นผมว่าจริงนะครับ
แต่ถ้าอยู่ถูกที่แล้ว แต่ยังไม่รวยสักที อาจจะต้อง มาคิดว่า ต้องมีปัญหาอะไรกับเราแล้ว หละ 555

..............................................................................
เจ้าของบล้อค

บุญยิ่ง ฤกษ์อุดม

Tel. : 083-1258400

Line ID : boonying


อีกมุมมองหนึ่ง ..
ในยามวิกฤติ เพื่อนๆ อาจจะกำลังต้องการคุณ

คลิ้กเข้าไปอ่าน 




อเมริกันฟุตบอล กับ งาน

หลายๆท่าน คงไม่มีใครทราบว่า นอกจาก เป็นแฟน ฟุตบอลที่ใช้เท้าเตะแล้ว ผมก็เป็นแฟนอเมริกันฟุตบอลที่ติดตามเวลาแมตช์ใหญ่ๆอย่าง Super Bowl อยู่เกือ...